ไม่ป่วย ไม่แก่


           
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ยุทธศาสตร์ 
           
           ชะลอวัย ห่างไกลโรค ค่ะ

ไปยังการค้นหา
ถ้าเลือกได้ ใครๆ อยากดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกันตลอดใช่ไหมละคะ ด้วยเหตุนี้มนุษย์เราจึงสรรหาสารพัดวิธีบำรุงความงามและชะลอความชรามาโดยตลอด โชคดีที่พอวิวัฒนาการเจริญก้าวหน้าขึ้น เราก็ค้นพบวิธีการใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์ “ Anti-Aging ” (การชะลอวัย) ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่องนี้กันค่ะ

       คำว่า ชะลอวัย “ Anti Aging ” ที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั้น แท้จริงแล้วในทางการแพทย์หมายถึงการชะลอวัย หรือการฟื้นฟูการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายที่จะช่วยทำให้คุณเข้าสู่ความชราช้าลง โดยมีหลักอยู่ที่การรักษา ฟื้นฟู และป้องกัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และมีอายุที่ยืนยาวตามอายุขัยเฉลี่ยถึง 120 ปี!
  
      Aging หรือความแก่ชรานั้น ถือได้ว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งที่เราสามารถป้องกันและฟื้นฟูได้ โดยเมื่อไหร่ที่ร่างกายเริ่มมีสัญญาณ เช่น เหนื่อยง่าย ตื่นยาก นอนไม่หลับ อ้วนง่าย มีริ้วรอยต่างๆ นั้นแหละ คือสัญญาณเตือนว่าโรคความแก่ชราเริ่มมาเยี่ยมเยือนคุณแล้วค่ะ




  เป้าหมายของการชะลอวัยนั้นไม่เพียงแต่ให้คนเราผิวพรรณดี มีอายุยืนยาวแต่จะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระของใคร 
 และทำให้มีชีวิตยืนยาวอย่างมีความสุขค่ะ




        เรามาทำความรู้จักกับศัตรูที่ทำให้เราแก่ เราเสื่อมกันค่ะ
     อนุมูลอิสระ (Free Radicals)  เป็นตัวทำลายภูมิคุ้มกันและเซลล์ต่างๆทำให้เกิดการเสื่อมถอยของร่างกาย ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของ ริ้วรอย แก่ก่อนวัย และโรคความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ที่หนักสุดคือการก่อตัวเป็นเนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็ง




  ร่างกายเรามีสารอนุมูลอิสระมาตั้งแต่เกิด แต่ในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นร่างกายเรายังสามารถกำจัดตัวอนุมูลอิสระได้ดี แต่ที่เราต้องใส่ใจมากขึ้นเริ่มจากวัยทำงาน ถ้าอายุมากขึ้นหรือร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันจะไม่สามารถต่อสู้กับอนุมูลอิสระได้ อนุมูลอิสระจะโจมตีเยื่อหุ้มเซลล์ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ


       คราวนี้เรามารู้จักสารต้านอนุมูลอิสระกันค่ะ



   ารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คือสารที่ช่วยป้องกันหรือช่วยชะลอการเกิด "ออกซิเดชั่น" ซึ่งเป็นตัวทำให้เราแก่เร็ว ริ้วรอยมากขึ้น ป่วยง่ายขึ้น ฏิกิริยาออกซิเดชันภายในร่างกายเช่น การย่อยสลายโปรตีนและไขมันจากอาหารที่กินเข้าไป มลพิษทางอากาศ การหายใจ ควันบุหรี่ รังสียูวี 

   มีงานวิจัยมากมายบ่งชี้ว่า สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหลายโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหารเช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมอง (เช่น อัลไซเมอร์) เป็นต้น รวมทั้งช่วยชะลอกระบวนการบางขั้นตอนที่ทำให้เกิดความแก่  




สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) มีมากมาย ตัวอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี แอสตาแซนธิน กรดแอลฟาไลโปอิก เบตาแคโรทีน ลูทีน ไลโคปีน ซีลีเนียม และโอเมก้า-3.

สารต้านอนุมูลอิสระ 7 ชนิด ที่ดีต่อสุขภาพ 
ต้านโรคได้เยี่ยม !

1.วิตามินซี

ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระจากสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดีและช่วยในการป้องกันโรคที่เกิดจากอนุมูลอิสระ พบมากในผักกับผลไม้ เช่น ผักคะน้า บรอกโคลี มะเขือเทศ ดอกสะเดา ผักหวาน มะนาว ฝรั่ง มะละกอสุก ส้ม และมะขามป้อม ฯลฯ

2.วิตามินเอกับเบต้าแคโรทีน

ช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้มีน้ำมีนวลเปล่งปลั่ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคและช่วยในการบำรุงสายตา พบในเครื่องในสัตว์ ตับ ไข่แดง เนย ผลไม้สีส้มออกเหลืองและผักใบเขียวเข้มหรือใบเหลือง เช่น แครอต ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ผักตำลึง ฟักทอง พริก ใบยอ มะเขือเทศ มะม่วงสุก และลูกพีช ฯลฯ

3.วิตามินอี

คือวิตามินชนิดหนึ่งที่ร่างกายจำเป็นจะต้องได้รับทุกวันละลายได้ในไขมัน ทำหน้าที่ในการปกป้องผนังเซลล์โดยการดักจับอนุมูลอิสระที่ผ่านเข้ามาแล้วทำให้สิ้นฤทธิ์ พบมากในน้ำมันพืชต่าง ๆ น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ

4.ไลโคปีน

มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าเบต้าแคโรทีนถึง 2 เท่า พบในมะเขือเทศกับฟักข้าว ซึ่งในการวิจัยของประเทศไทยพบว่าฟักข้าวมีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศถึง 20-70 เท่า

5.ลูทีน

มีส่วนช่วยในการทำลายสารอนุมูลอิสระอย่างมาก ช่วยป้องกันประสาทตาเสื่อม ช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา และช่วยทำให้เซลล์ตาแข็งแรง พบได้ในถั่วลันเตา ถั่วแขก ถั่วพิสตาชิโอ โกจิเบอร์รี ดอกดาวเรือง ข้าวโพด อโวคาโด ต้นอ่อนกะหล่ำดาว แตงกวา บวบ และไข่ ฯลฯ

6.ซิลีเนียม

คือแร่ธาตุที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับทุกวันแต่ต้องการต่อวันน้อย ช่วยประสานการทำงานระหว่างวิตามินเอ วิตามินซีกับวิตามินอี ในการกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกาย พบในข้าว บะหมี่ ขนมปังโฮลวีต กระเทียม ต้นหอม หอมแดง หอมหัวใหญ่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ และตับ ฯลฯ

7.สังกะสี

เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อกระบวนการควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้น ช่วยซ่อมแซมผิวหนัง ช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยบำรุงสุขภาพเล็บกับเส้นผมให้แข็งแรง พบมากในหอยนางรมกับเนื้อสัตว์ แต่ไม่ควรทานร่วมกับชาหรือกาแฟ เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซีมสังกะสีน้อยลง



  ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ

  1. ชะลอกระบวนการแก่ชรา (แค่ชะลอนะคะ อายุยืนยาวมากขึ้น ไม่ใช่เป็นอมตะ)
  2. ช่วยให้ร่างกายขับสารพิษที่ก่อมะเร็ง
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งทุกชนิด 
  4. ยับยั้งการเจริญเติบโตจากเนื้องอกต่าง ๆในร่างกาย
  5. ช่วยป้องกันโรคปอดเรื้อรัง หอบหืด หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง
  6. ช่วยบรรเทาอาการของโรคอัลไซเมอร์ได้
  7. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ด้วย
  8. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
  9. ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
  10. ช่วยป้องกันโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม (สาเหตุของการตาบอดในผู้สูงอายุ)
  11. ช่วยเป็นเกราะในการป้องกันมลพิษต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม

    เห็นกันแล้วนะคะว่าสารต้านอนุมูลอิสระดีต่อสุขภาพร่างกายทำให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้ายและยังช่วยชะลอความแก่ได้อย่างดีด้วยค่ะ

  
.........................................
 
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม🔽
สอบถามข้อมูลเพิ่ม🔽
เบญจมาศ มณทิพย์  
ID Line: Benjamas_Monthip


........................................